พุดดิ้งขนมปังเป็นเมนูที่ช่วยลดปริมาณอาหารเหลือทิ้งในบ้านได้อย่างสร้างสรรค์ เปลี่ยนขนมปังเก่าที่ทานไม่หมดให้กลายเป็นขนมหวานสุดพิเศษที่ใครๆ ก็ต้องหลงรัก หัวใจสําคัญของพุดดิ้งขนมปังอยู่ที่การผสมผสานระหว่างเนื้อขนมปังนุ่มๆ กับซอสคัสตาร์ดรสชาติกลมกล่อมที่ซึมซาบเข้ากันอย่างลงตัว การเลือกใช้ขนมปังสําหรับทําพุดดิ้งก็มีความสําคัญเช่นกัน โดยขนมปังที่เหมาะจะนํามาทําพุดดิ้งควรเป็นขนมปังที่มีเนื้อแน่น เช่น ขนมปังบริยอช ขนมปังฮอลล์ หรือขนมปังแซนวิชแบบหนา เพราะขนมปังเหล่านี้จะสามารถดูดซับซอสคัสตาร์ดได้ดีโดยไม่เละจนเกินไป นอกจากนี้ การใช้ขนมปังเก่าที่เริ่มแข็งเล็กน้อยก็จะช่วยให้พุดดิ้งมีเนื้อสัมผัสที่ดียิ่งขึ้น ในส่วนของซอสคัสตาร์ด สามารถปรับเปลี่ยนรสชาติได้ตามความชอบส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นคัสตาร์ดวานิลลา คัสตาร์ดช็อกโกแลต หรือคัสตาร์ดรสผลไม้ต่างๆ ที่สําคัญคือต้องเคี่ยวคัสตาร์ดให้มีเนื้อเนียนข้นกําลังดี เพื่อให้ซอสสามารถเคลือบขนมปังได้อย่างทั่วถึงและไม่ทําให้พุดดิ้งแฉะจนเกินไป เมื่อราดซอสคัสตาร์ดลงบนขนมปังแล้ว ควรปล่อยทิ้งไว้สักพักเพื่อให้ขนมปังดูดซับซอสได้อย่างเต็มที่ ยิ่งแช่ไว้นานเท่าไหร่ ขนมปังก็จะยิ่งนุ่มชุ่มฉ่ํามากขึ้นเท่านั้น ก่อนนําเข้าอบ สามารถเพิ่มความอร่อยและสวยงามให้กับพุดดิ้งได้ด้วยการโรยหน้าด้วยผลไม้สด เช่น เบอร์รีต่างๆ กล้วยหอม หรือแอปเปิล หรือจะโรยด้วยถั่วอบกรอบ หรือช็อกโกแลตชิพก็ได้ตามใจชอบ การอบพุดดิ้งขนมปังควรใช้ไฟอ่อนๆ เพื่อให้ขนมสุกทั่วถึงโดยไม่ไหม้ด้านนอก เมื่ออบเสร็จแล้ว พักขนมไว้ให้เย็นลงเล็กน้อยก่อนเสิร์ฟ เพื่อให้เนื้อพุดดิ้งเซ็ตตัวและรสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น พุดดิ้งขนมปังสามารถทานได้ทั้งแบบอุ่นๆ และแบบเย็น ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล นอกจากสูตรพุดดิ้งขนมปังแบบดั้งเดิมแล้ว ยังมีสูตรพุดดิ้งขนมปังที่ปรับปรุงให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น พุดดิ้งขนมปังใส่ไส้กรอกและชีส พุดดิ้งขนมปังหน้าพิซซ่า หรือพุดดิ้งขนมปังชาเขียว ซึ่งแต่ละสูตรก็ให้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันออกไป ทําให้พุดดิ้งขนมปังเป็นขนมที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายและไม่มีวันน่าเบื่อ