การต้มไข่ไก่เป็นทักษะพื้นฐานที่ดูเหมือนง่าย แต่การจะได้ไข่ที่สุกในระดับที่ต้องการนั้นต้องอาศัยเทคนิคและเวลาที่เหมาะสม เพราะไข่แต่ละฟองมีความแตกต่างกัน ทั้งขนาด ความสดใหม่ และอุณหภูมิเริ่มต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อเวลาที่ใช้ในการต้มทั้งสิ้น **ไข่ยางมะตูม:** ไข่ยางมะตูมเป็นไข่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนลิ้น ไข่ขาวเกือบสุกแต่ไข่แดงยังเป็นของเหลวเยิ้ม การต้มไข่ยางมะตูมให้อร่อยต้องใช้ความพิถีพิถันเป็นพิเศษ โดยเริ่มจากนําไข่ไก่ที่อุณหภูมิห้องใส่ลงในหม้อ เติมน้ําให้ท่วมไข่เล็กน้อย จากนั้นนําไปตั้งไฟกลาง เมื่อน้ําเริ่มเดือด ให้จับเวลาประมาณ 6-7 นาที เมื่อครบกําหนดเวลาแล้ว ให้รีบนําไข่ไปแช่ในน้ําเย็นจัดทันที เพื่อหยุดความร้อนและทําให้ปอกเปลือกได้ง่ายขึ้น **ไข่ต้มเกือบสุก:** สําหรับผู้ที่ชอบไข่ที่มีไข่แดงข้นขึ้นมาเล็กน้อย แต่ยังคงความเยิ้มอยู่ ไข่ต้มเกือบสุกเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ วิธีการต้มคล้ายกับไข่ยางมะตูม แต่เพิ่มเวลาในการต้มเป็น 8-9 นาที เมื่อได้เวลาที่ต้องการแล้ว ให้นําไปแช่น้ําเย็นเช่นเดิม **ไข่ต้มสุกพอดี:** ไข่ต้มสุกพอดีคือไข่ที่ไข่ขาวสุกทั้งหมดและไข่แดงเริ่มแข็งตัว แต่ยังคงมีความชุ่มชื้นอยู่เล็กน้อย เหมาะสําหรับนําไปทําเป็นไข่ดาวน้ําหรือใส่ในสลัด การต้มไข่ให้ได้ระดับนี้ ให้ต้มในน้ําเดือดประมาณ 10-12 นาที **ไข่ต้มสุกมาก:** สําหรับผู้ที่ชอบไข่ต้มที่สุกทั่วทั้งฟอง ไข่แดงแข็งและไม่เยิ้ม ไข่ต้มสุกมากคือคําตอบ การต้มไข่ให้สุกมากต้องใช้เวลาประมาณ 13-15 นาที หลังจากต้มเสร็จแล้ว ควรนําไปแช่ในน้ําเย็นจัดเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่แดงมีสีเขียวคล้ํา **เคล็ดลับเพิ่มเติม:** * **การเลือกไข่:** ควรเลือกใช้ไข่ไก่สดใหม่ เพราะจะปอกเปลือกได้ง่ายกว่าไข่เก่า * **การป้องกันไข่แตก:** ก่อนต้ม ควรนําไข่ออกจากตู้เย็นล่วงหน้า เพื่อให้ไข่มีอุณหภูมิห้อง หรือเติมเกลือหรือน้ําส้มสายชูลงในน้ําเล็กน้อย เพื่อช่วยป้องกันไข่แตก * **การปอกเปลือก:** หลังจากแช่ไข่ในน้ําเย็นแล้ว ให้เคาะเปลือกไข่เบา ๆ ให้ทั่วฟอง จากนั้นค่อย ๆ ปอกเปลือกออก โดยเริ่มจากด้านล่างของไข่ การต้มไข่ให้ได้ระดับความสุกที่ต้องการนั้น ต้องอาศัยการฝึกฝนและปรับเวลาให้เหมาะสมกับเตาและไข่ที่ใช้ เมื่อชํานาญแล้ว คุณจะสามารถต้มไข่ได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกครั้ง