GoodGoodDish
ส้มผัก (ต้นหอม กะหล่ำปลี)
ส้มผัก หรือกิมจิอีสาน เป็นการดองผักแบบพื้นบ้านที่ทําได้ง่าย โดยนวดผักกับเกลือจนคายน้ํา แล้วหมักในน้ําซาวข้าวจนเกิดรสเปรี้ยวธรรมชาติ มักใช้กะหล่ําปลีและต้นหอมเป็นผักแนมกับอาหารอีสาน
ส้มผัก (ต้นหอม กะหล่ำปลี)
ส้มผักเป็นอาหารพื้นบ้านของภาคอีสานที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีลักษณะคล้ายกับกิมจิของเกาหลี แต่มีกรรมวิธีการทําและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง หัวใจสําคัญของการทําส้มผักคือการดองผักด้วยเกลือและน้ําซาวข้าว เพื่อให้เกิดกระบวนการหมักที่สร้างรสเปรี้ยวตามธรรมชาติ ผักที่นิยมนํามาทําส้มผักมีหลากหลายชนิด เช่น ผักเสี้ยน ผักกาดขาว และกะหล่ําปลี ซึ่งแต่ละชนิดก็ให้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน สูตรส้มผักกะหล่ําปลีและต้นหอมนี้เป็นสูตรที่ทําได้ง่าย เหมาะสําหรับผู้ที่ต้องการลองทําส้มผักด้วยตนเอง วัตถุดิบหลักคือกะหล่ําปลีและต้นหอม ซึ่งเป็นผักที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่นๆ เช่น เกลือ น้ําซาวข้าว และพริก (ถ้าต้องการรสเผ็ด) ขั้นตอนการทําเริ่มจากการนํากะหล่ําปลีและต้นหอมมาล้างให้สะอาด แล้วหั่นหรือซอยตามต้องการ จากนั้นนําไปคลุกเคล้ากับเกลือ นวดเบาๆ จนผักเริ่มคายน้ําออกมา ทิ้งไว้สักพักเพื่อให้ผักนิ่มลง เมื่อผักนิ่มลงแล้ว ให้นําไปใส่ในภาชนะสําหรับหมัก เทน้ําซาวข้าวลงไปให้ท่วมผัก กดผักให้จมน้ํา ปิดฝาภาชนะให้สนิท แล้วนําไปวางไว้ในที่อุณหภูมิห้อง ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน หรือจนกว่าจะมีรสเปรี้ยวตามที่ต้องการ ระยะเวลาในการหมักจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและสภาพแวดล้อม หากอากาศร้อน ส้มผักก็จะเปรี้ยวเร็วขึ้น เมื่อได้รสเปรี้ยวที่พอใจแล้ว ให้นําส้มผักไปแช่ในตู้เย็นเพื่อชะลอการหมักและรักษารสชาติ ส้มผักที่ได้จะมีรสชาติเปรี้ยว เค็ม และมีกลิ่นหอมของผักหมัก นิยมนํามารับประทานเป็นเครื่องเคียงกับอาหารอีสานต่างๆ เช่น ลาบ ส้มตํา น้ําตก หรือใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารอื่นๆ เช่น แกงส้ม ผัดส้มผัก นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว ส้มผักยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เนื่องจากผ่านกระบวนการหมัก ทําให้มีจุลินทรีย์ที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร และยังมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย